ความสามารถในการออกกำลังกายลดลง 2. การลุกยืนหรือนั่ง ทำได้ช้าหรือลำบากมากกว่าปกติ 3. สุนัขไม่พยายามหรือไม่สามารถกระโดด ก้าวขึ้นหรือลงบันไดหรือรถยนต์ได้ 4. บางครั้งอาจได้ยินเสียงคลิกที่บริเวณสะโพก เวลาสุนัขเดิน 5. ลักษณะการวิ่งจะใช้ 2 ขาหลังก้าวไปพร้อมๆ กัน 6. มีอาการเจ็บขาเด่นชัดมากขึ้นหลังการออกกำลังกายอาจแสดงอาการของขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง 7. สุนัขจะยืนในลักษณะหลังงอ กล้ามเนื้อบริเวณขาหลังและสะโพกลีบเล็กลง บางครั้งสุนัขจะยืนลักษณะขาชิด แต่ปลายเท้าแบะออก สาเหตุและปัจจัยที่ให้เกิดโรค 1. กรรมพันธุ์ กรรมพันธุ์มักเป็นสาเหตุเริ่มแรกของโรคข้อสะโพกเสื่อมและมักจะเกิดร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ทำให้มีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ พบว่าลูกสุนัขที่เกิดจากพ่อ-แม่ที่ไม่แสดงอาการของ โรคอาจป่วยด้วยโรคนี้ได้ ส่วนลูกสุนัขที่เกิดจากพ่อ-แม่ที่ป่วยด้วยโรคข้อสะโพกเสื่อมจะมีโอกาสเป็นถึง 93% 2. โภชนาการ การให้อาหารเต็มที่ตลอดเวลา จะทำให้มีโอกาสเกิดโรคสูง ควรให้ปริมาณอาหารเพียง 60-70% ของปริมาณอาหารที่สุนัขกินได้ 3. อัตราการเจริญเติบโตและขนาดตัวของสุนัข ลูกสุนัขที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็ว และมีน้ำหนักตัวมาก จะมีแนวโน้มเกิดปัญหาได้มากขึ้น 4.
โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) เผยแพร่ครั้งแรก 17 ธ. ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 19 พ.
วันที่ 13 ก. พ. 2559 เวลา 09:42 น. โดย... เบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตร ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนผู้ป่วยโรคข้อสะโพกมากขึ้น โดยสถิติของโรคข้อเสื่อมข้ออักเสบเท่ากับ 3. 5% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ที่มีอายุ 25 ปี พบว่า มีอัตราข้อเสื่อมเท่ากับ 4. 9% ที่อายุ 45 ปี พบว่า มีอัตราข้อเสื่อมเท่ากับ 19. 2% และเมื่ออายุถึง 60 ปี มีโอกาสเกิดข้อเสื่อมสูงถึง 37. 4% นพ.
เยอรมัน เชพเพิร์ด (German Shepherd) เยอรมัน เชพเพิร์ด เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่และขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงว่องไว จึงมักได้เป็นสุนัขตำรวจ สุนัขอารักขา สุนัขช่วยในสงคราม หรือสุนัขที่ช่วยตรวจจับระเบิดและยาเสพติด แต่กลับมีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาสุขภาพอย่างโรคข้อสะโพกเสื่อมสูง จึงทำให้เยอรมัน เชพเพิร์ด ต้องผ่านการตรวจรับรองข้อสะโพกก่อนที่จะทำหน้าที่ต่าง ๆ 5.
Home > รู้ทัน!
วิโรจน์กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ทั้งหมด เดิมเคยมีการผ่าตัดคล้ายกันทำนองนี้ตั้งแต่ปี 1950 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้ปรับปรุงและแก้ไขเรื่อยมา จนกระทั่งศัลยแพทย์กระดูกและข้อ นพ.
การถ่ายภาพรังสีเอ็กซ์เรย์ ใช้ประเมินความรุนแรงของโรคได้ในช่วงอายุ 12-18 เดือน สำหรับลูกสุนัขที่มีปัญหารุนแรงสามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงของข้อต่อได้เร็ว กว่านี้ การใช้รังสี สามารถดูลักษณะของข้อสะโพกที่ผิดปกติโดยจะพบว่าหัวกระดูกจะถูกปกคลุมโดยเบ้ากระดูกน้อยกว่า 50% ของหัวกระดูกทั้งหมด อาจพบภาวะอื่นๆเช่น ภาวะกระดูกงอกที่ข้อสะโพกซึ่งเกิดภาวะการอักเสบที่ตามมาจากโรคข้อสะโพกเสื่อม การรักษา แบ่งเป็น 3 ลักษณะคือ 2. 1 การรักษาทางยา เป็นการรักษากรณีที่เริ่มมีอาการ โดยการใช้ยาแก้ปวด ลดอักเสบ รวมทั้งการใช้สารเสริมอาหารพวกกลูโคซาไมด์ และคอนดรอยติน ร่วมไปกับการควบคุมปริมาณอาหารที่เหมาะสม นอกจากนี้ควรให้สุนัขมีการออกกำลังกายที่เหมาะสม 2. 2 การรักษาโดยการผ่าตัด มีจุดประสงค์เพื่อ – ลดอาการเจ็บปวดบริเวณข้อต่อ – เพื่อให้สุนัขสามารถกลับมาใช้ขารับน้ำหนักได้ – เพื่อลดการดำเนินไปของโรค แต่อย่างไรก็ตามการผ่าตัดในกรณีที่สุนัขป่วยมานาน กล้ามเนื้อขาเริ่มลีบ จะให้ผลการรักษาที่ไม่ค่อยดีนัก ทั้งนี้ การผ่าตัดมีหลายวิธี เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก การตัดหัวกระดูกในรายที่มีการเจ็บและอักเสบของข้อสะโพกอย่างรุนแรง 3.