ไฟฟ้าสถิตย์ (Static Electricity) ไฟฟ้าสถิตย์เป็นไฟฟ้าที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา มีอยู่ในวัตถุต่าง ๆ เมื่อวัตถุหรือสิ่งของได้รับการเสียดสี ความร้อน แรงกดดัน จนทำให้ประจุไฟฟ้าในตัววัตถุหลุดออกจากตัววัตถุ ทำให้เกิดพลังงานไฟฟ้าขึ้น ไฟฟ้าสถิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าที่อยู่กับที่ นำไปใช้ประโยชน์ได้น้อย เช่น ฟ้าผ่า เป็นต้น รูปฟ้าผ่า 2. ไฟฟ้ากระแส (Current Electricity) หมายถึง ไฟฟ้าที่สามารถเคลื่อนหรือไหล ไปตามสายไฟฟ้าได้ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้ 2. 1 ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current) หรือไฟ D. เป็นไฟฟ้าที่ได้จากปฏิกิริยาเคมี แสงสว่าง เครื่องแปลงไฟฟ้า และไดนาโม เป็นต้น รูปแสดงการไหลของไฟฟ้ากระแสตรง ลักษณะสมบัติของไฟฟ้ากระแสตรง มีดังนี้ มีทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้าทางเดียว มีขั้วไฟฟ้าคงที่ คือ ขั้วบวก + และขั้วลบ - สามารถเก็บประจุไว้ในเซลล์ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ได้ มีค่าแรงดันไฟฟ้าเป็นบวกเสมอ 2. 2 ไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current) หรือไฟ A. ไฟฟ้ากระแสสลับ เป็นไฟฟ้าที่ได้มาจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือที่เรียกว่า เยนเนอเรเตอร์ รูปแสดงการไหลของไฟฟ้ากระแสสลับ การเกิดแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ มีขั้นตอนดังนี้ แสดงการเกิดคลื่นของไฟฟ้ากระแสสลับ 1.
ลวดเชื่อมพิเศษ – เป็นลวดเชื่อมที่แบ่งกลุ่มออกมาเพื่อใช้งานเฉพาะ เช่น ลวดเชื่อมทนแรงดึงสูง, ลวดเชื่อมพอกผิวแข็ง, ลวดเชื่อมอินโคเนล, ลวดเชื่อมไฟฟ้าอลูมิเนียม, ลวดเชื่อมนิกเกิลอัลลอยด์, ลวดเชื่อมไฟฟ้าทองแดง และ ลวดเชื่อมประสาน เป็นต้น ที่มา สามารเข้าชมสินค้า S A J I ได้ที่ l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l
หลักการไฟฟ้าเบื้องต้น วิธีกำเนิดแรงดันไฟฟ้าแบบต่าง ๆ ไฟฟ้าเป็นพลังงานชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเครื่องมือเครื่องใช้และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ล้วนแต่อาศัยพลังงานไฟฟ้าในการทำงานทั้งสิ้น วิธีการกำเนิดแรงดันไฟฟ้าที่สำคัญมีดังนี้ 1. ไฟฟ้าที่ได้จากแสงสว่าง เช่น เซลล์สุริยะ (Solar cell) เป็นอุปกรณ์ที่สร้างขึ้น เพื่อเปลี่ยนพลังงานแสงสว่างให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง ไฟฟ้าที่ได้จากเซลล์สุริยะเป็นไฟฟ้า กระแสตรง ปัจจุบันได้นำเซลล์สุริยะมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด เช่น เครื่องคิดเลข นาฬิกา วิทยุ ดาวเทียมสื่อสาร เป็นต้น รูปแสดงลักษณะของแผงเซลล์แสงอาทิตย์ 2. ไฟฟ้าที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมี ได้แก่ ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ หรือที่เรียกว่า " เซลล์ไฟฟ้า " เป็นไฟฟ้าที่ได้จากการเปลี่ยนปฏิกิริยาทางเคมีให้เป็นพลังงานไฟฟ้า เซลล์ไฟฟ้า มีขนาดเล็ก แต่ให้พลังงานไฟฟ้าสูง ราคาถูก ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้เซลล์ไฟฟ้าเป็นแหล่งจ่ายพลังงาน ได้แก่ เครื่องคิดเลข นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ วิทยุสื่อสาร ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน ไฟฟ้าที่ได้จากปฏิกิริยาทางเคมีเป็นไฟฟ้ากระแสตรง รูป แสดงการเกิดไฟฟ้าจากปฏิกิริยาทางเคมี 3.
ลวดเชื่อม แต่ละชนิดจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป โดยถ้าเรารู้ชนิดงานของการเชื่อมก็จะเลือกลวดเชื่อมได้ง่ายขึ้น และ ต้องเลือกดูลวดเชื่อมที่มีคุณภาพ ใช้งานได้เป็นอย่างดี แล้ววิธีการเลือกลวดเชื่อมจะได้ดูลักษณะดังนี้ 1. ความแข็งแรงของชิ้นงาน 2. ส่วนผสมของโลหะชิ้นงาน จะต้องเลือกลวดเชื่อมที่มีส่วนผสมเหมือนกันกับโลหะชิ้นงาน 3. ชนิดของกระแสไฟที่ใช้ ควรเลือกให้เหมาะสมกับกระแสไฟเชื่อม เพราะลวดเชื่อมบางชนิดจะเชื่อมได้ผลดีกับไฟกระแสตรงเท่านั้น หรือบางชนิดจะเชื่อมได้ผลดีกับไฟกระแสสลับเท่านั้น 4. ความหนาและรูปร่างของชิ้นงาน ควรเลือกใช้ลวดเชื่อมที่มีความเหนียวสูงกับงานที่มีความหนาและซับซ้อนเพื่อหลีกเลี่ยงการแตกร้าว ลวดเชื่อมแบ่งออกได้เป็น 6 ชนิดใหญ่ๆ ได้แก่ 1. ลวดเชื่อมธูป หรือ ลวดเชื่อมไฟฟ้าหุ้มฟลั๊กซ์ (Covered Welding Electrode) – เป็นลวดเชื่อมที่ด้านนอกจะมีสารเคลือบฟลั๊กซ์ (Flux) มีลักษณะคล้ายธูป ด้านในเป็นลวดโลหะ ซึ่งลวดโลหะมีอยู่หลายชนิด เช่น ลวดเชื่อมเหล็ก และ ลวดเชื่อมสแตนเลส สามารถเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับประเภทของชิ้นงานที่ต้องการเชื่อม เป็นลวดเชื่อมที่นิยมใช้งานกันมากในหมู่ช่างเชื่อม อุปกรณ์และเส้นลวดเชื่อมมีราคาไม่แพง มีหลายขนาดให้เลือกใช้งาน ตั้งแต่ 2.
สถาบันไอเมค อินโนเวชั่น จำกัด 444 อาคารเอ็มบี เค เซ็นเตอร์ ชั้น 4 ห้อง PLA. F04. D007000 ถ. พญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน จ. กรุงเทพ 10330 02-3312729-30