รบ. ครูและบุคลากรทางการศึกษา พ. 2547 1) ควบคุมดูแลการบริหารงานบุคคล ม. 27(1) 2) พิจารณาความดีความชอบ ม. 27(2) 3) ส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาบุคลากร ม. 27(3) 4) จัดทำมาตรฐานภาระงานครู ม. 27(4) 5) ประเมินผลการปฏิบัติงานครู ม. 27(5) 6) ปฏิบัติหน้าที่ตาม อ. ก. ค. กก. รร. มอบหมาย ม. 27(6) 7) สั่งให้ครูฯออกจากราชการกรณีขาดคุณสมบัติ ม. 49 8) สั่งบรรจุแต่งตั้งครูผู้ช่วย ครู บุคลากร ม. 53(4) 9) สั่งครูที่ทดลองปฏิบัติราชการออก ม. 56 วรรคสอง 10) สั่งให้ครูพ้นทดลองทำงานต่อไป ม. 56 วรรคสอง 11) สั่งครูที่ออกไปแล้วกลับเข้ามาตาม มติ อ. ศ ม. 64 12) สั่งให้ครูรักษาการในตำแหน่ง (ตำแหน่งว่าง) ม. 68 13) สั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการครู ม. 73 14) ยกย่องเชิดชูเกียรติครูดีเด่น ม. 75 15) แจ้งภาระงาน เกณฑ์ประเมินผลงาน มาตรฐานวิชาชีพจรรยาบรรณวิชาชีพ ระเบียบแบบแผนฯ ม. 78 16) ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ม. 79 17) ส่งเสริมสนับสนุนให้ไปศึกษาดูงาน ม. 81 18) รักษาวินัยอย่างเคร่งครัด ม. 82 19) เสริมสร้างพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชา ม. 95 98 20) อนุญาต ยับยั้งอนุญาตลาออก ม. 108 21) สั่งแต่งตั้งกก. สอบสวนกรณีกล่าวหาไม่เลื่อมใสปกครองฯ ม.
75 15)แจ้งภาระงาน เกณฑ์ประเมินผลงาน มาตรฐานวิชาชีพจรรยาบรรณวิชาชีพ ระเบียบแบบแผนฯ ม. 78 16) ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ม. 79 17) ส่งเสริมสนับสนุนให้ไปศึกษาดูงาน ม. 81 18) รักษาวินัยอย่างเคร่งครัด ม. 82 19) เสริมสร้างพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชา ม. 95 98 20) อนุญาต ยับยั้งอนุญาตลาออก ม. 108 21) สั่งแต่งตั้งกก. สอบสวนกรณีกล่าวหาไม่เลื่อมใสปกครองฯ ม. 110 (4) 22) สั่งให้ครูออกจากราชการ ในกรณีต่างๆ เช่น เจ็บป่วย ยุบตำแหน่ง ไร้ประสิทธิภาพ จำคุก 6. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารจัดการและขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ของสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคลสังกัด สพท. พ. 2546 กำหนดบทบาทหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษา ดังนี้ 1)ผู้อำนวยการฯเป็นผู้แทนของนิติบุคคลสถานศึกษา 2)นิติบุคคลสถานศึกษาถูกฟ้องร้อง ให้รายงาน สพท. แจ้งสพฐ. แต่งตั้งผู้รับผิดชอบดำเนินคดี 3)การบริหารบุคคลตามกฎหมาย พรบ. ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา 4)ยุบ รวม เลิกล้มรร. ตรวจสอบบัญชี ทรัพย์สิน โอน จำหน่ายตามหลักเกณฑ์ สพฐ. กำหนด 5)รร. มีอำนาจปกครอง ดูแล บำรุง รักษา ใช้ จัดหา ผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้ แต่จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ กก.
ต้องเห็นชอบ รายงานสพท. 6)รร. มีอิสระในการบริหารจัดการงบประมาณ พัสดุตามวงเงิน อำนาจที่เลขา สพฐ. มอบ หรือ ผอ. มอบตามหลักเกณฑ์ที่สพฐ. กำหนดยกเว้นเงินเดือน 7)จัดทำระบบการเงิน บัญชี ตามรบสพฐ. กำหนด และทรัพย์สินฯผู้อุทิศทำหลักฐานการรับ บัญชีรับ-จ่ายฯรายงาน ผอ. ทุกสิ้นปีงบประมาณ ผอ. ตรวจสอบและรายงานเลขา สพฐ. โดยเร็ว 7. อำนาจหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษาตามระเบียบ กฎหมายอื่น เช่น - รบ. ศธ. ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนนักศึกษา พ. 2548 - กฎกระทรวง ว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนนักศึกษา รบ. ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนฯ พ. 2548 รบ. ว่าด้วยการกำหนดเวลาทำงานและวันหยุดราชการของสถานศึกษา พ. 2547 รบ. ว่าด้วยการชักธงชาติในสถานศึกษา พ. 2547 - รบ. ว่าด้วยการตั้งชื่อสถานศึกษา พ. 2547 -รบ. ศธ. ว่าด้วยการขอบคุณหรืออนุโมทนา พ. 2547 -รบ. ศธ. ว่าด้วยการแก้ไขวันเดือนปีเกิดของนักเรียนนักศึกษา 2547 - รบ. ศธ. ว่าด้วยใบสุทธิและหนังสือรับรองของสถานศึกษา พ. 2547 - รบ. ศธ. ว่าด้วยการยกเลิกเงินบำรุงการศึกษา พ. 2534 พ. ศธ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการไปศึกษา ฝึกอบรมฯ(ฉ. 2) พ. 2547
เข้ารับการปฐมนิเทศจากครูผู้รับผิดชอบกิจกรรม ๓. ร่วมประชุมเลือกตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ตามลักษณะของกิจกรรม ๔. ร่วมประชุมจัดทำแผนงาน โครงการ ปฏิทินงาน และปฏิบัติกิจกรรม ด้วยความเอาใจใส่ อย่างสม่ำเสมอ ๕. ร่วมประเมินการปฏิบัติกิจกรรมและนำผลมาพัฒนาตนเอง และนำเสนอ ผลการปฏิบัติกิจกรรมต่อครูผู้รับผิดชอบ ๖. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถอดประสบการณ์ ทบทวน และสะท้อนความรู้สึกภายหลัง การปฏิบัติกิจกรรม (After Action Review: AAR) รวมทั้งสร้างเครือข่ายจิตอาสาและขยายผล ต่อยอดสู่ความยั่งยืน บทบาทของคณะกรรมการสถานศึกษา ๑. ให้ความเห็นชอบและมีส่วนร่วมในการกำหนดวางแผนดำเนินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๒. ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามความเหมาะสม บทบาทของผู้ปกครองและชุมชน ๑. มีส่วนร่วมในการวางแผนการจัดกิจกรรม และอาสาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของ สถานศึกษาและชุมชน ๒. ยอมรับในศักยภาพของผู้เรียน ให้โอกาสให้ผู้เรียนได้สำรวจตนเองเพื่อประกอบ การตัดสินใจในการเลือกแผนการเรียน การศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ ๓. ดูแล เอาใจใส่ผู้เรียน และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา ป้องกัน และ แก้ไขปัญหาของผู้เรียน ๔.
การตัดสินใจเกี่ยวกับเป้าหมาย หรือจุดประสงค์ของงาน เช่น โรงรเรียนมีเป้าหมายหรือจุดประสงค์ของงานที่จะทำอย่างไร <ฟ้า> 2. การตักสินใจเกี่ยวกับแผน เป็นการกระทำเพื่อให้บรรลุความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนด <ฟ้า> 3. การตักสินใจเกี่ยวกับการลงมือปฎิบัติงาน เพื่อทำให้การปฎิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยนำไปสู่ความสำเร็จตามจุดประสงค์ที่กำหนด <ฟ้า> 4.
บทบาทของผู้บริหาร โดย เยาวเรศ วงศ์ปาลีย์ - 17 ส. ค. 2544 ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา มีหน้าที่ความรับผิดชอบและภาระกิจหลักที่สำคัญ คือ รับผิดชอบงานทุกอย่างของสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงานวิชาการ การบริหารงานธุรการและการเงิน การบริหารงานบุคคล การบริหารงานอาคารสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ การบริหารงานกิจการนักเรียน การประชาสัมพันธ์และการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมที่มีขนาดใหญ่ย่อมมีบุคลากรมาก การบริหารงานเพียงคนเดียว อาจทำให้เกิดข้อบกพร่องได้ ผู้บริหารระดับสูงจึงมอบอำนาจบางอย่างให้ผู้อื่นปฎิบัติแทน หรืออาจแต่งตั้งหลายๆคน มารับมอบอำนาจลดหลั่นกันไปตามสายงาน ลักษณะของผู้บริหารแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ 1. ผู้บริหารแบบอัตนัย (Autocratic leader) คือ ผู้บริหารที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง จะทำอะไรก็สั่งการด้วยตนเอง ไม่ต้องประชุมปรึกษาการือกับใคร เป็นผู้มีความมั่นคงในตนเอง ต้องการให้ดำเนินไปด้วยความรวดเร็วไม่ชอบสั่งการตามขั้นตอน ให้ผู้ปฎิบัติดำเนินการทันที 2. ผู้บริหารแบบตามสบาย (laissez fair leaders) คือ ผู้บริหารที่ปล่อยให้ผู้ร่วมงานทำงานกันตามสบาย กฎ ระเบียบไม่บังคับเข้มงวด การปฎิบัติงานยืดหยุ่นและเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน การบริหารงานแบบนี้งานจะไม่ค่อยก้าวหน้า แต่คนชอบการทำงานจะไม่ชอบเพราะไม่ค่อยมีงานทำ ผู้บริหารไม่สร้างงาน 3.