bdcorpamerica.com

แบบ ทดสอบ Reported Speech – Emms สอนอังกฤษ ติวสอบ: Direct & Indirect Speech 4

ฉันรักคุณมาก Jane said that she loved Jo very much. เจนพูดว่าหล่อนรักโจมาก Jane told Jo that she loved Jo very much. เจนบอกโจว่าหล่อนรักโจมาก โจพูดกับเจน " I love you too. " ผมรักคุณเช่นกัน Jo said that he loved Jane too. โจพูดว่าเขารักเจนเช่นกัน Jo told Jane that he loved her too. โจบอกเจนว่าเขารักหล่อนเช่นกัน เด็กน้อยพูดกับแม่ " I want to eat pizza every day. " หนูอยากกินพิซซ่าทุกวัน The little girl said that she wanted to eat pizza every day. หนูน้อยพูดว่าเธออยากกินพิซซ่าทุกวัน The little girl told her mum that she wanted to eat pizza every day. หนูน้อยพูดว่าเธออยากกินพิซซ่าทุกวัน พวกเขา(บรรดานักบอลที่ได้แชมป์)พูดกับแฟนๆว่า " We are so happy. " พวกเรามีความสุขมาก They said they were so happy. พวกเขาพูดว่าพวกเขามีความสุขมาก They told their fans that they were so happy. พวกเขาบอกกับแฟนๆว่าพวกเขามีความสุขมาก ปล. ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกริยาให้เป็นรูปอดีตก็ได้ ถ้าความนั้นเป็นข้อเท็จจริงทั่วไป เช่น โจพูดกับฉันว่า I am a teacher. ผมเป็นครู (อันนี้เป็นข้อเท็จริง ตลอดกาล) Jo said that he is a teacher.

About energy supply

เปลี่ยนคำพูดของคนอื่นให้อยู่ในรูปของอดีตกาล หรือ Past Tense นั่นเอง (ถ้าจะศึกษาเรื่องนี้ต้องผ่านด่านเรื่อง Tense มาแล้วนะครับ) 2. เปลี่ยนแปลงเวลาและคำแวดล้อมให้ถูกต้องกับความเป็นจริงในปัจจุบันที่พูด 3. เปลี่ยนสรรพนามจาก I เป็น He/She จาก We เป็น They / you จาก me เป็น her/ him แล้วแต่สถานการณ์ 4. คำพูดที่อยู่ในรูปของประโยคคำถาม ให้แปลงเป็นประโยคบอกเล่า ประโยค Reported Speech หรือ Indirect Speech มีกี่ประเภท มี 3 ประเภทด้วยกัน 1. Indirect Speech – Statement ประโยคบอกเล่า 2. Indirect Speech – Commands, Requests or Suggestions ประโยค คำสั่ง แนะนำ ขอร้อง 3. Indirect Speech – Question ประโยคคำถาม ขอให้จำกฎง่ายๆว่า ต้องเปลี่ยนคำกริยาปัจจุบันให้เป็นอดีต และเปลี่ยนคำที่เป็นบริบทให้ตรงกับความเป็นจริง ในประโยคบอกเล่านี้ เราจะใช้คำว่า said that (พูดว่า…) หรือ told… (บอก…ว่า) ก็ได้ คำว่า that จะละไว้ก็ได้ Present Simple Tense เปลี่ยนเป็น Past Simple tense โจพูดกับฉัน " I am tired. " ฉันเหนื่อย Jo told me that he was tired. โจบอกฉันว่าเขาเหนือย Jo said he was tired. โจพูดว่าเขาเหนื่อย เจนพูดกับโจ " I love you very much. "

เจนถามฉันว่าฉันชอบแมวใช่ไหม เจนถามว่า " Did you eat my cake? " คุณกินเค้กฉันใช่ไหม Jane asked me if I ate her cake. เจนถามฉันว่าฉันกินเค้กของหล่อนใช่ไหม คำถาม Verb to be (is, am, are, was, were + ประธาน) ให้เรียงเป็นประโยคบอกเล่า (ประธาน + verb to be) เจนถามว่า " Are you a doctor? " คุณชอบแมวไหม Jane asked me if I was a doctor. เจนถามฉันว่าฉันเป็นหมอใช่ไหม เจนถามว่า " Were you a doctor at ABC Hospital? " คุณเคยเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลเอบีซีใช่ไหม Jane asked me if I was a doctor at ABC Hospital. เจนถามฉันว่าเคยเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลเอบีซีใช่ไหม คำถาม Wh Questions (who, what, where, when, why และ how) ให้ใช้ wh question นำหน้า และเรียงเป็นประโยคบอกเล่า ประธาน + กริยา เจนถามว่า "Where are you from? " คุณมาจากไหน Jane asked me where I was from. เจนถามฉันว่าฉันมาจากไหน เจนถามว่า "Who do you love? " คุณรักใคร Jane asked me who I loved. เจนถามฉันว่าฉันรักใคร เจนถามว่า "What will you do? " คุณจะทำอะไร Jane asked me what I would do. เจนถามฉันว่าฉันจะทำอะไร เจนถามว่า "When is your birthday? " วันเกิดของคุณเมื่อไหร่ Jane asked me when my birthday was.

In july

ประโยคคำถามในภาษาอังกฤษอาจแบ่งได้เป็น 2 แบบหลักๆ คือ การถามที่ต้องตอบ yes หรือ no ว่าใช่หรือไม่ใช่ (Yes/No question) กับการถามแบบที่ต้องการให้อีกฝ่ายตอบเป็นรายละเอียดหรือข้อมูลบางอย่าง ทั้งนี้ ในชีวิตประจำวันทั่วไปกับการใช้หรือสนทนาภาษาอังกฤษ พวกเรามักจะได้พบเจอประโยคคำถามโดยทั่วไป ที่มีชื่อเรียกแบบเป็นทางการว่า Direct Question (DQ) กันเป็นประจำอยู่แล้ว กำลังฝึกภาษาอังกฤษอยู่ไหม? รับฟรี eBook คำศัพท์ TOEIC 1, 099 คำ ที่พบบ่อย ส่งตรงเข้ามือถือทันที เพียงกรอกรับด้านล่าง (สุ่ม 50 คน/วัน แจก!!! Email บทเรียนภาษาอังกฤษ ทุกวัน 1 ปี) ตัวอย่างเช่น "What are you doing? " "Do you speak English? " "Who is your teacher? " "Are you a doctor? " ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเกี่ยว ลักษณะการถามแบบ Indirect question (IQ) กันบ้าง Indirect question ก็คือ ประโยคคำถามที่จะมีการพูดเกริ่นนำออกมาก่อน แล้วจึงตามด้วยคำถามนั่นเอง ตัวอย่างเช่น "I would like to know whether…….. " "Please tell me……. " "I wonder if……" จะสังเกตได้ว่า การถามแบบที่ต้องการคำตอบ Yes/No นั้น เราสามารถใช้ตัวเชื่อมคือ whether (or not) โดยอาจมีคำว่า or not หรือไม่ก็ได้ และคำว่า if ซึ่งก็มีความหมายออกไปในทำนองเดียวกัน ตัวอย่างเช่น DQ: "Can you drive? "

แบบ ทดสอบ reported speech definition

Synthesis

If you need more grammar exercises on "Reported Speech", you can find the links below. After finishing you can check your answers immediately. How cool! แบบฝึกหัดเพิ่มเติมเรื่อง Reported Speech ค่ะ คลิกตามหัวข้อต่อไปนี้ (ทำแบบฝึกหัดเสร็จแล้ว คลิกที่ 'Check' เพื่อตรวจคำตอบได้เร็วทันใจค่ะ) Reported Statement 1 (แบบบอกเล่า) Reported Statement 2 (แบบบอกเล่า + คำบอกเวลา) Reported Question 1 (แบบคำถาม) Reported Question 2 (แบบคำถาม + คำบอกเวลา) Reported Command 1 (แบบคำสั่ง) Reported Command 2 (แบบคำสั่งปฏิเสธ) Special thanks to, a great German website where you can find tons of English grammar explantion and exercises. Ajarn In

โน้ตของ Direct and Indirect Speech - Clearnote เข้าสู่ระบบ เผยแพร่เมื่อ 14/10/2018 20:24 แก้ไขเมื่อ 23/01/2021 19:59 ข้อมูล evennpp ถ้าคิดว่าโน้ตนี้มีประโยชน์ ก็กดติดตามผู้เขียนเพื่อรับแจ้งเตือนเมื่อมีโน้ตใหม่ ๆ มาได้เลย! ความคิดเห็น สมุดโน้ตแนะนำ คำถามที่เกี่ยวข้องกับโน้ตสรุปนี้

Worksheets

แบบ ทดสอบ reported speech words
  1. แบบ ทดสอบ reported speech about energy supply
  2. Heroes of wonderland โหลด
  3. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
  4. โน้ตของ Direct and Indirect Speech - Clearnote

Technology

Indirect speech: She asked me how they would get here. เวลาที่เรานำประโยคคำถามมาเล่าต่อ เรามักจะใช้ verb 'ask' โดยจะเหมือนกับ verb 'tell' ตรงที่ต้องมีกรรมตามมาเช่นกัน แต่ว่าสามารถละได้ การนำประโยคคำสั่งและขอร้องมาบอกต่อ เวลาที่เราสั่งใคร เราจะใช้รูปประโยคคำสั่ง ซึ่งก็คือละ subject และใช้ verb ขึ้นต้นประโยค เช่น: " Call me back later. " " Have a seat. " " Don't do that! " การนำประโยคคำสั่งมาบอกต่อ เราจะใช้ 'tell' ตามด้วยรูป infinitive ของ verb ที่จะสั่ง เช่น: You told me to call you back later. He told me to have a seat. She told us not to do that. เวลาที่เราขอร้อง เรามักจะใช้คำว่า 'can', 'could', หรือ 'will' เช่น: "Could you call me back later? " "Will you have a seat? " "Can you not do that please? " ถ้าจะนำประโยคขอร้องมาบอกต่อ ให้ใช้ verb 'to ask' และรูป infinitive ของ verb ที่จะขอ เช่น: You asked me to call you back later. He asked me to have a seat. She asked us not to do that. ตอนนี้เราคงได้เห็นวิธีใช้ direct และ indirect speech กันไปแล้ว ลองเอาไปฝึกใช้กันนะคะ วิธีการง่าย ๆ และได้ผลที่จะทำให้เข้าใจว่าเรื่องนี้ใช้อย่างไร คือการลองไปอ่านเรื่องสั้นภาษาอังกฤษหรือข่าวออนไลน์ดูค่ะ เพราะเรื่องสั้นและบทความเหล่านี้จะมีตัวอย่างของประโยค reported speech อยู่เยอะเลยค่ะ วิ่ง สลับ เดิน 1 ชั่วโมง กี่ แค ลงประกาศฟรี ตลาด นก กรง หัว จุก นครศรีธรรมราช song นำ เข้า เครื่อง ฟอก อากาศ ต่อtvกับมือถือ ขาย ด รีม คุรุ สภา สตาร์ท มือ

แบบ ทดสอบ reported speech games

เรามักจะเห็น direct speech ใช้ในหนังสือหรือบทความในหนังสือพิมพ์ เช่น The local MP said, "We plan to make this city a safer place for everyone. " จะเห็นได้ว่าเวลาที่ใช้ direct speech เรามักจะใช้ verb 'to say' ('said' ถ้าเป็นอดีต) แต่คุณอาจจะใช้ verb ตัวอื่นเพื่อบอก direct speech ได้ เช่น 'ask', 'reply', และ 'shout' เช่น When Mrs Diaz opened the door, I asked, "Have you seen Lee? " She replied, "No, I haven't seen him since lunchtime. " The boss was angry and shouted, "Why isn't he here? He hasn't finished that report yet! " Indirect Speech เวลาที่เราอยากจะนำคำพูดของคนอื่นมาบอกต่อ แต่ไม่ได้ต้องการใส่เครื่องหมายอัญประกาศหรือต้องการลอกคำพูดคนอื่นมาทุกคน เราสามารถใช้ indirect speech (หรือบางทีเรียกว่า reported speech) เช่น Direct speech: "We're quite cold in here. " Indirect speech: They say (that) they're cold. เวลาที่เรานำคำพูดคนอื่นมาบอกต่อในปัจจุบัน ดังตัวอย่างในประโยคข้างบน เรามักจะไม่ต้องเปลี่ยน tense แค่เปลี่ยน subject ของประโยค แต่เวลาที่เราเล่าถึงคำพูดคนอื่นในอดีต เราจะเปลี่ยน tense ให้เป็นอดีตที่ลึกขึ้นไปหนี่งขั้น เช่น ดังตัวอย่างประโยคด้านล่างนี้ present simple ถอยลงไปเป็นอดีตหนึ่งขั้นคือ past simple ในประโยค indirect speech Direct speech: "I have a new car. "

c. Are you a programmer? d. ถูกทั้งข้อ a. และ b. 3) ข้อใดต้องการทราบว่าอีกฝ่ายจะมาทำงานหรือไม่ a. I wonder if you would come to work. Please tell me whether you would come to work. Would you come to work? d. ถูกทุกข้อ เฉลย 1. (ข้อ d. ) เพราะถึงแม้ข้อ a. และ b. จะมีการใช้ whether และ if แต่ประโยคข้างหน้าเป็นการถามแบบ DQ ครับ 2. ) ส่วนข้อ c. เป็นคำถามแบบ DQ ครับ 3. ) ถูกทุกข้อครับ แตกต่างกันที่รูปแบบการถามเท่านั้น (สุ่ม 50 คน/วัน แจก!!! Email บทเรียนภาษาอังกฤษ ทุกวัน 1 ปี)